ชิมช้อปใช้เฟส 4
โครงการลงทะเบียนชิมช้อปใช้เป็นโครงการที่รัฐบาลได้ออกมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดและเศรษฐกิจที่ถดถอย ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านแอพเป๋าตังกรุงไทย อนึ่งจุดประสงค์หลักชิมช้อปใช้ลงทะเบียนคือส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและกระตุ้นใช้จ่ายผ่านระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า g-Wallet โดยการแจกเงิน
ในช่วงที่ผ่านมา ชิมช้อปใช้คนละครึ่งได้ออกมาให้ประชาชนได้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นชิมช้อปใช้เฟส 1 ชิมช้อปใช้เฟส 2 ชิมช้อปใช้เฟส 3 และชิมช้อปใช้ล่าสุดก็คือชิมช้อปใช้เฟส 4 อย่างไรก็ดีนโยบายชิมช้อปใช้ครั้งนี้คือกระตุ้นเศรษฐกิจการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทางรับเองก็พยายามให้ทันในช่วงสงกรานต์ปี 2567 หรือ 2024 ที่จะถึงนี้ ก็ต้องรอติดตามดูว่าโครงการดังกล่าวจะมีความคืบหน้ามากน้อยอย่างไร
ชิมช้อปใช้ ช้อปดีมีคืน ลดหย่อนภาษีได้ด้วย
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าโครงการชิมช้อปใช้คือโครงการที่ภาครัฐได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนชาวไทยด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจจับจ่ายใช้สอย ผ่านการแจกเงินเข้าแอพเป๋าตังแอพเงินด่วนทันใจ นอกจากนี้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการหรือผ่านการอนุมัติลงทะเบียนชิมช้อปใช้ได้สำเร็จ ยังมีสิทธิพิเศษชิมช้อปใช้ลดหย่อนภาษีอีกด้วย ซึ่งจะลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ตุลาคม – ธันวาคม 2563 โดยประชาชนสามารถนำใบกำกับภาษีเพื่อนำมาหักลดหย่อนภาษีในปี 2563 เพื่อสำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงหนังสือและสินค้าโอทอป ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง อย่างไรก็ตามแต่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ค่าที่พัก และตั๋วเครื่องบิน ไม่ได้เข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าวจึงไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ชิมช้อปใช้คนละครึ่ง รัฐแจก 3000 บาท
หลายคนคงได้มีโอกาสสมัครชิมช้อปใช้ 3000 บาท หรือโครงการคนละครึ่งที่รัฐบาลได้ออกนโยบายมา โดยหลัก ๆ คือรัฐจะช่วยจ่าย 50% สำหรับค่าใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีวงเงินให้ที่ 3000 บาท ทั้งนี้การช่วยเหลือของรัฐจะครอบคลุมไปทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ กล่าวคือมีร้านค้ามากกว่าแผงลอยมากกว่า 80000 แห่งที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ในส่วนของผู้บริโภค รัฐจะแจกเงิน 3000 บาทต่อคน เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล หรือแอพฯ “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย และผู้ที่ได้รับสิทธิต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สัญชาติไทยเท่านั้น
เงื่อนไขของชิมช้อปใช้คนละครึ่ง คือเราสามารถใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท โดยรัฐออกให้ครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการชิมช้อปใช้ของรัฐมีหลายเฟสเหมือนกัน ทำให้บางคนอาจเกิดการสับสนได้ ดังนั้นในช่วงนี้ก็ต้องหมั่นติดตามข่าวสารอยู่เนือง ๆ และพยายามลงทะเบียนให้ทัน ไม่อย่างนั้นสิทธิที่เราควรจะได้อาจสูญเปล่าได้ และช่วยลดปัญหาการการกู้สินเชื่อนอกระบบได้อีกด้วย
